เกิดเหตุระทึกหลัง พ่อขับเก๋งแดงพา สิบเอก แหกคุกทหาร หลังสิบเอกถูกขังกรณีโกงเงินสวัสดิการ เบื้องต้นยังตามหาทหารคนดังกล่าวไม่พบ เพจเฟซบุ๊ก แม่ทัพลิง 3/1 ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดที่ถูกบันทึกที่หน้าค่ายทหารแห่งหนึ่ง จากคลิปสามารถจับภาพวินาทีที่มีรถเก๋งแดงขับออกไป ซึ่งในจังหวะที่ขับออกไปก็มีทหารนายหนึ่งพยายามเกาะรถเอาไว้ ขณะที่มีทหารอีกหลายนายวิ่งตามรถดังกล่าว โดยทางเพจระบุว่ารถคันนี้ได้นำตัว สิบเอก ที่ติดคุกทหารออกจากเรือนจำ ทั้งนี้แม้ว่าจะมีนายทหารหลายนายพยายามขวางไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ลูกเพจฝากแจ้งข่าวว่า
มีการชิงตัวนักโทษทหารหลบหนีแหกด่านค่ายทหารออกมา (ตามคลิปเลยครับ) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อาทิตย์ที่ผ่านมาครับ ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สทุทรสาคร วันที่ 15/04/65 ครับ ในคลิปมีวันเวลาระบุไว้ครับ”
ด้าน พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปวีดีโอภาพเหตุการณ์ บริเวณหน้ากองรักษาการณ์ ของค่ายทหารแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่าเป็นการหลบหนีของผู้ต้องขังนั้น ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 15 เม.ย.65 ที่ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จ.สมุทรสาคร นายทหารชั้นประทวนยศสิบเอกนายหนึ่ง ซึ่งได้ถูกผู้บังคับบัญชาตรวจพบว่าได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงเงินสวัสดิการ
และหน่วยทหารได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผลสอบของคณะกรรมการพบว่าผิดจริงและพิจารณาโทษทางวินัย ลงทัณฑ์ขัง 30 วัน พร้อมให้ดำเนินการปลดออกจากราชการ ซึ่งในระหว่างการรับโทษและรอคำสั่งปลด กำลังพลดังกล่าวได้หนีออกจากกองรักษาการณ์ โดยมีบิดาของผู้กำลังพลดังกล่าว ให้การช่วยเหลือ
ทั้งนี้ทางหน่วยทหาร ได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.กระทุ่มแบน รวมทั้งแจ้งความในคดีทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำให้เกิดความเสียหาย ระหว่างหลบหนี และประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งติดตามตัวต่อไป
พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเกิดเหตุหลบหนีออกจากสถานที่ราชการ จะได้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบสถานที่ดังกล่าวตามระเบียบของทางราชการต่อไป ขอเรียนว่ากำลังพลดังกล่าวว่าไม่ใช่นักโทษ แต่ถูกลงโทษทางวินัยทหารด้วยการขัง และปัจจุบันได้มีคำสั่งปลด
ศูนย์จีโนม เผย ยอดผู้ป่วยโควิดไทยลดลง เตรียมเข้าสู้โหมดโรคประจำถิ่นออกจากทางราชการแล้วเมื่อ 20 เมษายน 2565
ศูนย์จีโนม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงภาพรวมของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยอดผู้ป่วยโควิดลดลงต่อเนื่อง ว่า “การระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนา 2019 หากมีขึ้นไม่จำเป็นต้องเกิดจากเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) เสมอไป แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดจากโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย (Omicron sub-variant) ที่อุบัติขึ้นมาได้เช่นกัน หากดูภาพรวมทั้งโลกขณะนี้ (2/5/2565) จะพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตลดลง
ภาพรวมของประเทศไทยหลังสงกรานต์พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตค่อยๆ ลดลงเช่นกัน อันเนื่องจากมาประชาชนให้ความร่วมมือดีในการฉีดวัคซีนครบโดส บวกเข็มกระตุ้น และการ์ดไม่ตก โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางกายภาพและการสวมหน้ากากอนามัย รวมไปถึงการตรวจ ATK ด้วยตนเอง
โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยในประเทศไทย BA.1 สูญพันธุ์ไปเรียบร้อย BA.2 ค่อยๆ ลดจำนวนลง มีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศไทยสามารถเข้าสู่โหมด “โรคประจำถิ่น” ที่สาธารณสุขไทยสามารถควบคุมการระบาดได้ในเร็ววัน
จากการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของบรรดาไวรัสโคโรนา 2019 ที่ระบาดทั่วโลกยังไม่ปรากฏพบไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) ที่แตกต่างไปจากโอมิครอน
มนุษย์มีความเบื่อหน่ายกับการอยู่ร่วมกับโควิดเป็นอย่างมาก อยากให้กลายเป็นโรคประจำถิ่นและสามารถกำจัดให้หมดไปได้โดยไวไม่ว่าจะด้วยวัคซีนหรือยาต้านไวรัส เหมือนกับที่เราทำสำเร็จมาแล้วในกรณีของไวรัสไข้ทรพิษ (variola virus) ไวรัสโปลิโอ (poliovirus) และไวรัสหัด (measles virus)
แต่ไวรัสโคโรนา 2019 ก็พัฒนาตัวเองเพื่อจะอยู่ร่วมกับเราตลอดไป การระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนา 2019 หรือในประเทศในคือระลอกที่ 6 นั้นอาจไม่จำเป็นต้องเกิดจากเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) ที่แตกต่างไปจากโอมิครอนเสมอไป เพราะโอมิครอนเองได้แสดงให้เราเห็นว่าสามารถวิวัฒนาการเกิดเป็นสายพันธุ์ย่อย (Omicron sub-variant) ออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยการกลายพันธุ์เพียง 1-2 ตำแหน่งบนยีนที่สร้างส่วนหนามแหลม (spike/S gene) ซึ่งเพิ่มความสามารถในการระบาดระหว่างคนสู่คนได้เร็วกว่าและเข้ามาแทนที่สายพันธุ์ดั้งเดิม สามารถลดประสิทธิภาพของวัคซีนและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ อย่างเช่น โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กำลังเพิ่มจำนวนเข้ามาแทนที่ BA.2 ในประเทศแอฟริกาใต้ หรือ BA.2.12.1 กำลังเพิ่มจำนวนเข้ามาแทนที่ BA.2 ในประเทศสหรัฐอเมริกา
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป