ตำรวจเผยคดี สินสอด 1 ล้าน คู่บ่าวสาวไม่มาพบเจอหมายจับแน่

ตำรวจเผยคดี สินสอด 1 ล้าน คู่บ่าวสาวไม่มาพบเจอหมายจับแน่

สอบปม เช่าสินสอด 1 ล้าน ตำรวจเผยหลังคู่บ่าวสาวเบี้ยวนัด เข้าให้ปากคำ ชี้ไม่มาตามนัดเจอหมายจับ เจ้าหน้าที่รู้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว กรณี สินสอดงานแต่ง 1 ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้กลายเป็นประเด็นดราม่าหนัก เนื่องจาก ช่างภาพรายหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเอาไป ก่อนที่ต่อมาเรื่องราวทั้งหมดจะมีการเปิดเผยว่า สินสอดดังกล่าว ทางฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเป็นฝ่ายไปเช่ามาเพื่อจัดงาน

พ.ต.อ.เอนก จันทร์สอน รองผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยวานนี้ (30 มี.ค.65) 

หลังเรียกทุกฝ่ายมาสอบสวนว่า ล่าสุดคู่บ่าวสาวได้ยอมรับเป็นคนเก็บเงินสินสอด 1 ล้านไปเอง ซึ่งเป็นเงินสินสอดที่ไปเช่ามา โดยที่พ่อแม่เจ้าสาวไม่รู้ หลังเสร็จงานต้องนำไปคืนผู้ให้เช่า เมื่อพ่อแม่เห็นว่าเงินหายไป จึงตกใจแจ้งตำรวจจนเกิดเป็นเรื่องขึ้น

นอกจากนี้ พ.ต.อ.เอนก ยังกล่าวถึงคู่บ่าวสาวด้วยว่า การดำเนินคดีได้สอบปากคำไปหลายปากแล้ว แต่ยังเหลือทางเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่ตำรวจนัดให้เข้ามา ซึ่งขณะนี้แล้วยังไม่เดินทางมา และตำรวจพยายามติดต่อทางโทรศัพท์อีกรอบก็ยังไม่รับสาย หากบ่าวสาวไม่มาตามนัดก็จะออกหมายจับต่อไป

ขณะเดียวกัน ช่างภาพที่ถูกกล่าวหาในตอนแรกก็กล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้งหลังเข้าไปให้ปากคำที่ บก.ภ.จว.กำแพงเพชร ซึ่งภายหลังตากล้องที่เกือบเคราะห์ร้ายรายนี้ก็ตอบคำถามนักข่าวกรณีจะฟ้องร้องกลับหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้แค่อยากได้คำขอโทษอย่างจริงใจเท่านั้น แต่ตอนนี้ฝ่ายเจ้าภาพยังไม่มีใครติดต่อมาหาเลย

จ. ให้ควบคุมจํานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัดตามขนาดของสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรม เกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน

(2) ห้ามการเล่นน้ำ เล่นประแป้ง ปาร์ตี้โฟม หรือกิจกรรมใดๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการ ระบาดของโรค ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรม

(3) สําหรับการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชน สามารถดําเนินการได้ โดยให้ ศปก. ในพื้นที่ที่ตั้งของชุมชนนั้น ๆ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาอนุญาต และต้องมีมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่สอดคล้องกับแนวทางและมาตรการที่กําหนดในข้อกําหนดนี้ด้วย

(4) สถานที่หรือการจัดกิจกรรมใดๆ ที่อาจทําให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดําเนินมาตรการความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการ กําหนดขึ้นเป็นการเฉพาะด้วย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอดส่อง เฝ้าระวัง และติดตามการดําเนินมาตรการของผู้ประกอบการ และผู้มีหน้าที่รับผิดชอบสถานที่และการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมและ ป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด

‘สุรินทร์’ เลื่อนคำสั่งประกาศ โควิด เป็นโรคประจำถิ่น ห่วงยอดพุ่งหลังสงกรานต์

สุรินทร์ ประกาศเลื่อนคำสั่งปรับ โควิด เป็นโรคประจำถิ่นออกไปก่อน หลังจากที่แผนเดิมจะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. ห่วงยอดพุ่งหลังสงกรานต์ ชี้ยอดฉีดวัคซีนเข็มสามไม่พอ นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ รอง ผวจ.สุรินทร์ ได้เข้าเป็นประธานการประชุม ว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดมีมติประกาศปรับให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 เมษายนนี้

ซึ่งที่ประชุมมีมติเลื่อนการตัดสินใจดังกล่าวออกไป เนื่องจาก ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ที่ต้องใช้มาตรการถึง 13 ข้อ ในการเสนอให้ ศบค.ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณาอนุมัติให้เป็นโรคประจำถิ่น ที่ประชุมจึงขอให้เลื่อนออกไปหลังเทศกาลสงกรานต์ และจะมีการประเมินใหม่อีกรอบ เพราะช่วงสงกรานต์ มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมีคลัสเตอร์ของการระบาดอีก และต้องติดตามประเมินสถานการณ์ช่วงสงกรานต์อีกครั้ง

ทั้งนี้อัตราการครองเตียงผู้ป่วย ของจังหวัดสุรินทร์ยังสูงอยู่ คร่าวๆ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8% ซึ่งเกณฑ์กำหนดอยู่ที่ 3% เท่านั้น อาจมาจากวัคซีน เข็มที่ 3 ที่เรายังมีตัวเลขไม่ถึง 20% ทำให้มีผู้ป่วยหนักยังสูงอยู่ จำนวนเตียง ทั้งหมดในโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลสนาม CI อยู่ที่ 671 เตียง มีผู้ป่วยหนัก 71 เตียง ใส่ท่อช่วยหายใจ 8 เตียง

ทั้งนี้ทางทีมแพทย์ยังกังวล ถึงสถานการณ์ช่วงสงกรานต์อยู่ จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ก่อนกลับมาบ้าน ให้งดไปพื้นที่เสี่ยง 7 วัน และตรวจ ATK ก่อนเดินทางกลับบ้าน จะลดความเสี่ยงลงได้มาก

หากพบว่าการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ผ่อนคลายให้สามารถ ดําเนินการได้นี้ มิได้ปฏิบัติตามหรือย่อหย่อนการดําเนินการมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ที่ทางราชการกําหนดซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อน ให้ดําเนินการตักเตือนและ ให้คําแนะนําเพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวก่อนที่จะดําเนินการตามมาตรการทางกฎหมายต่อไป

เพื่อกํากับและเฝ้าระวังการระบาดของโรค ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ภายหลังการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประเมินความเสี่ยงและสังเกตอาการ ของตนเองในช่วงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบการภาคเอกชน สามารถพิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อดําเนินมาตรการให้เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหน่วยงานได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป

Credit : paydexengineering.com peaceinkenya.net portengine.net postmorebills.net priceslevitraonline.com propeciaofcourse.com propeciaordercanada.net raceimages.net ragingbunnies.net raisemoneyonline.net